วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประเทศเวียดนาม




ประเทศเวียดนามมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้างนะ
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม(Ho Hoan Kiem หรือ ทะเลสาบคืนดาบ)
            ที่ตั้ง : ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่าฮานอย  ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่าครั้งอดีตพระเจ้าเลไทโต (Le Thai Yo) ได้นำดาบวิเศษซึ่งนำมาต่อสู้กับพวกหมิงจนสามารถปลดปล่อยประเทศให้อิสระแล้ว พระองค์ทรงเรือไปกลางทะเลสาบเพื่อคืนดาบวิเศษให้กับเต่าศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวกันว่าเต่าได้ขึ้นมาฉกดาบไปจักพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วหายไปในทะเลสาบ อันเป็นเหตุให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่า ทะเลสาบคืนดาบ
            หากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชื่อเรียกว่า ทาพรัว (Thap Rua) ซึ่งหมายถึง หอคอยเต่าและในปัจจุบันยังมีหลายคนบอกว่าเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดูกาล


วัดหง็อกเซิน ( Ngoc Son หรือ วัดเนินหยก)
           ที่ตั้ง : อยู่ริมทะเลสาบบนเกาะหยก ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ สามารถข้ามจากฝั่งไปยังวัดโดยข้ามสะพานเทฮุก (The Huc) หรือสะพานแสงอาทิตย์ มีสีแดงสดใสถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงฮานอย นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกกันเสอมเมื่อถึงวัดหว็อกเซิน ด้านในมีบรรยากาศร่มรื่นและมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน




เมืองซาปา ประเทศเวียดนาม
          ซาปา เมืองบนเทือกกเขาใน จ. ลาวไก  ภาคเหนือประเทศเวียดนาม ใกล้กลับพรมแดนประเทศจีน ซาปาได้เป็นปลายทางยอดนิยมของเหล่าของนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานานหลายปี   ด้วยเป็นสถานที่เดิมไปด้วยชนกลุ่มน้อยที่แต่งกายด้วยเสื้อยืดหลากหลายสีสันทิวทัศน์อันสวยงามของหุบเขา  การทำนาแบบขั้นบันไดทำให้มีภูมิทัศน์สวยงามแก่การท่องเที่ยว  เดิมซาปาเป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงชาวฝรั่งเศส ที่มาทำงานในเวียดนาม จึงมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนและการวางแผนผังเมืองแบบเฟรนซ์โคโลเนียลมีจุดเด่นที่ตั้งอยู่กลางเมืองคือ โบสถ์คาทอลิก


อ่าวฮาลอง
           เนื่องจากประเทศเวียดนามมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบคาบสมุทร ซึ่งมีระยะทางจากภาคเหนือจรดภาคใต้ที่ยาวมาก และมีระดับความสูงต่ำของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ เวียดนาม มีสภาพอากาศที่หลากหลาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 22 องศาเซลเซียส ลักษณะภูมิอากาศของประเทศ อาจแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้


ทะเลสาบเมืองดานัง
           Vinh Hoi Bay Resort ตั้งอยู่ในจังหวัดบิ่ญดิ่ญ ซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตอนกลางของเวียดนาม ระหว่าง ดานัง และ นาตรัง ในศตวรรษที่ 11 จังหวัดนี้อยู่ในการปกครองของราชอาณาจักรจัมปา ซึ่งวัฒนธรรมของราชอาณาจักร ยังคงหลงเหลืออยู่ โดยยังเห็นได้จากวัดต่างๆ ในจังหวัด ภูมิประเทศของจังหวัดบิ่ญดิ่ญมีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยมีทั้งพื้นที่ราบสูง ป่า พื้นที่ลุ่ม ทะเลสาบ และชายหาดอยู่ภายในจังหวัดเดียว ปัจจุบันมีสนามบิน Phu Cat เปิดให้บริการ โดยสามารถเดินทางมาได้จากทั้งฮานอย และ โฮจิมินห์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเพียง 21 นาทีในการเดินทางจาก สนามบินมายัง Vinh Hoi Bay ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้นี้ สนามบินจะมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน


กรุงโฮจิมินห์
          ปัจจุบันนี้เมืองหลวงของประเทศเวียดนามคือ "ฮานอย" ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ ส่วน "กรุงโฮจิมินห์" หรือไซ่ง่อนเดิม ก็เป็นเมืองท่าอยู่ทางตอนใต้ และเป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจในปัจจุบัน ย้อนไปกรุงไซ่ง่อนในสมัยที่ฝรังเศสปกครองอยู่นั้น ได้มีการพัฒนาอย่างมาก ทั้งในด้านคมนาคม สาธารณสุข การศึกษา รวมถึงการวางผังเมืองอย่างดี นับว่าถ้าเทียบกับประเทศข้างเคียง แม้กระทั่งไทยเองในสมัยนั้นก็ไม่ได้มีความทันสมัยเทียบได้กับ "กรุงไซ่ง่อน"  แต่หลังจากที่เวียดนามรวมประเทศได้ และปกครองในระบอบสังคมนิยม   ความเป็นอยู่ของคนเวียดนามก็ยังพบกับความลำบาก การพัฒนาประเทศชะงักลง บ้านเมืองมีสภาพทรุดโทรมลงในทางกลับกัน ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะไทย ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในที่สุดปี ค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) เวียดนามจึงประกาศนโยบายปฏิรูป "โด่ยเหม่ย (Doi Moi)" โดยเริ่มปฏิรูปตลาดเสรี ผ่อนปรนอนุญาตให้ประชาชนประกอบธุรกิจของตัวเองได้ แต่ยังควบคุมกิจการของรัฐไว้ หลังจากนั้นการพัฒนาประเทศก็เกิดขึ้นเป็นลำดับและนี่คือบางส่วนใน "กรุงโฮจิมนิห์"


เมืองเว้
          เป็นเมืองเอกของจังหวัดถัวเทียน-เว้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345-2488 มีชื่อเสียงจากโบราณสถานที่มีอยู่ทั่วเมือง จำนวนประชากรอยู่ที่ประมาณ 340,000 คน สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเว้ส่วนใหญ่จะเป็นป้อมปราการ พระราชวังหลวง และสุสานจักรพรรดิหมู่โบราณสถานในเมืองเว้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2536 เว้เป็นเมืองที่เงียบสงบและน่าค้นหา มีบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเกิดที่เมืองนี้ หรือได้เคยมาเยือนเมืองนี้ ปัจจุบันเว้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม


โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ
          ประเพณีพื้นเมือง หุ่นกระบอกน้ำ เป็นการแสดงหุ่นกระบอกของเวียดนาม มีการแสดงเฉพาะที่ฮานอย ในโรงละครริมทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม บนถนนดิงห์เตียมฮว่าง หุ่นกระบอกน้ำ ใช้ผู้เชิดอยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่ที่มีการพรางไว้ ตัวหุ่นเชิดจะอยู่ที่ปลายไม้ที่ยาวพอที่จะยื่นออกมานอกฉากที่ผู้เชิดบังคับ มีกลไกบังคับมือหรืออวัยวะของหุ่นที่ทำจากไม้ฉำฉาที่เบาและพยุงน้ำหนักเมื่ออยู่ในน้ำ และการเชิดต้องไม่ให้เห็นไม้บังคับหุ่น จึงทำให้ดูเหมือนหุ่นมีลีลาของตนเอง ในประเทศไทยมีการนำมาแสดงบางส่วนที่พัทยา


หาดเกาได๋ (Cao Dai Beach)
            ชาวเวียดนามเรียกว่า หาดจีน เป็นหาดที่สวยงาม ทอดยาวมาจากเมืองดานัง มีบรรยากาศที่เงียบสงบ น้ำทะเลใส หาดทรายละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อน


ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ (Ho Hoan Kiem )
          อยู่ใจกลางเมืองเก่าฮานอย มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่าครั้งอดีตพระเจ้าเลไทโต (Le Thai To) ได้นำดาบวิเศษซึ่งนำมาต่อสู้กับพวกหมิงจนสามารถปลดปล่อยประเทศให้อิสระแล้ว พระองค์ทรงเรือไปกลางทะเลสาบเพื่อคืนดาบวิเศษให้กับเต่าศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวกันว่าเต่าได้ขึ้นมาฉกดาบไปจักพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วหายไปในทะเลสาบ อันเป็นเหตุให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่าทะเลสาบคืนดาบหากมองไปกลางทะเลสาบจะ เห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชื่อเรียกว่า ทาพรัว(Thap Rua)ซึ่งหมายถึงหอคอยเต่าและในปัจจุบันยังมีหลายคนบอกว่าเห็นเต่าขนาดใหญ่ อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดูกาล



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น